fbpx

แฟนคลับ ETH ต้องรู้ ! Dencun การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum และ Proto-Danksharding (EIP-4844) มันคืออะไรกันแน่?

แฟนคลับ ETH ต้องรู้ ! Dencun การอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ethereum และ Proto-Danksharding (EIP-4844) มันคืออะไรกันแน่?

Ethereum Upgrade

การอัปเกรด Dencun (หรืออีกชื่อ Cancun-Deneb) เป็นการอัปเกรดครั้งสำคัญของเครือข่าย Ethereum ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม 2567 โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับขนาด (scalability)และเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย Ethereum

 

ข้อเสนอหลักที่เป็นหัวใจสำคัญของการอัปเกรดนี้คือ Proto-Danksharding (EIP-4844) ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้การทำธุรกรรมบนเครือข่าย Layer-2 เร็วขึ้นและทำให้ gas fee ถูกลงมาก นอกจากนี้ยังมีข้อเสนออื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย การอัปเกรดครั้งนี้จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

EIP-4844 (Proto-Danksharding)

EIP-4844 (Proto-Danksharding) หรือที่รู้จักในชื่อ Proto-Danksharding เป็น EIP ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก โดย EIP นี้นำเสนอการทำธุรกรรมแบบ “blob-carrying” เพื่อลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการอัพเดทข้อมูลบน Layer 2 rollup ไปยัง Ethereum mainnet โดยธุรกรรมที่มีบันทึกข้อมูลแบบ Blob data จะช่วยให้ส่งข้อมูลได้คุ้มค่า หรือถูกลงนั่นเอง

 

การอัปเกรดนี้ถือเป็นพื้นฐานของการทำให้ Ethereum ปรับขนาดได้มากขึ้น (improve scalability) โดยเฉพาะในส่วนของ Danksharding ซึ่งจะเน้นการยืนยัน Blob data ผ่านเทคนิคการเข้ารหัสข้อมูล และการสุ่มตัวอย่างข้อมูลเพื่อความพร้อมใช้งาน การพัฒนาต่างๆ ของ Ethereum ในปัจจุบันมุ่งเน้นการปรับปรุงให้สามารถรองรับการทำงานแบบ modular ได้ โดยให้ความสำคัญกับ rollup และการปรับปรุงข้อมูลให้เหมาะสม

 

โดยประโยชน์หลัก ๆ ของ EIP นี้ได้แก่:

• Gas fee ถูกลง: EIP-4844 ตั้งเป้าที่จะลดค่า Gas ทำให้ค่าธุรกรรมบน Ethereum ถูกลงสำหรับผู้ใช้ทุกคน โดยเฉพาะผู้ใช้บน Layer-2

• เพิ่มความสามารถในการปรับขนาด (Scalability): การนำเอา Blob data เข้ามาช่วยในกระบวนการ รวมถึงการปรับเปลี่ยนต่างๆจะเปิดทางให้ Ethereum สามารถรองรับปริมาณธุรกรรมได้มากขึ้น

• ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีขึ้น: เมื่อค่าธรรมเนียมลดลงและมีความสามารถในการขยายขนาด (scalability) เพิ่มขึ้น ย่อมนำไปสู่ประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นและดึงดูดกลุ่มผู้ใช้ใหม่ๆ ให้เข้ามาสู่ ecosystem ของ Ethereum ได้ง่าย

ประโยชน์ของการอัปเกรด Dencun

นอกจากนี้ การอัปเกรด Cancun-deneb (Dencun) มีข้อเสนอ (EIP) ที่ส่งผลดีต่อการปรับปรุงบล็อกเชน Ethereum มากมาย ตัวอย่างเช่น:

• เพิ่มความสามารถในการปรับขนาด (Scalability Improvements)

การอัพเดท EIP-4844 (Proto-Danksharding) คาดว่าจะช่วยเพิ่มความเร็ว และความสามารถในการประมวลผลธุรกรรม ด้วยเหตุนี้ บล็อกเชน Layer-2 ที่สร้างบน Ethereum จะได้ประโยชน์อย่างมาก

 

• ลดค่าธรรมเนียม (gas fee)

EIP-4844 ที่ใช้การทำงาน blob data จะช่วยลดค่าธรรมเนียม ทำให้ต้นทุนแต่ละธุรกรรมคุ้มค่าขึ้น

 

อัปเกรดความปลอดภัย

EIP-6780 มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย ผ่านการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ที่รัดกุม

 

• จัดเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้งาน EIP-1153 จะทำให้การเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้การดำเนินงานบนเชนคล่องตัว และลดต้นทุน ตัว EIP-1153 นี้จะส่งผลดีต่อ Layer-2 ในด้านการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ

 

• ปรับปรุงการทำงานข้ามเชน

EIP-4788 ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยของการทำงานระหว่างเชน EIP นี้ จะทำให้การทำงานโต้ตอบระหว่างเชนนั้นดีขึ้น

 

โดยสรุป การอัปเกรด Dencun คาดว่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการปรับขนาด เพิ่มความปลอดภัย และพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้งาน การอัปเกรดนี้ทำให้ Ethereum แข็งแกร่งขึ้นและเป็นเชนหลักในวงการสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถของ Layer-2 ด้วย

SIX Protocol บล็อกเชนที่รองรับการทำงานร่วมกับ EVM

บล็อกเชน SIX Protocol จาก SIX Network โดดเด่นในการเป็นบล็อกเชนที่สามารถทำงานร่วมกับเชนอื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับ EVM ได้ และออกแบบมาเพื่อการใช้งานทางธุรกิจ ธุรกิจที่มาใช้จะมีข้อได้เปรียบมากมาย เช่น ค่าธรรมเนียมต่ำ

 

นอกจากนี้บล็อกเชน Layer-2 ใด ๆ ก็ตามที่ได้ประโยชน์จากการอัปเกรด เชนเหล่านั้นจะยิ่งน่าสนใจมากขึ้น การพาร์ทเนอร์ระหว่าง SIX Network และเชน Layer-2 จะทำให้ ecosystem ของ SIX Network แข็งแกร่งมากขึ้นตามไปด้วย

 

อ้างอิง Consensys. (2023, October 26). Ethereum Evolved: Dencun Upgrade Part 1, \EIP-5656 & EIP-6780. Part 2, EIP-7044 & EIP-7045. Part 3, EIP-4788. Part 4, EIP-7514 & EIP-1153. Part 5, EIP-4844.

——————————————–

 

Follow SIX Network 

https://linktr.ee/Sixnetwork

Join Discord

https://discord.gg/sixnetwork

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

SIX Name Service (SNS) — บริการตั้งชื่อแบบ Decentralized บน SIX Protocol

SIX Name Service (SNS) — บริการตั้งชื่อแบบ Decentralized บน SIX Protocol

SIX_Name_Service

SIX Network ได้เปิดตัวโปรแกรม SIX Individual Node รอบแรกในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และรอบที่สองในวันที่ 14 มีนาคม 2566 โดยหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโปรแกรม คือรับสิทธิในการใช้ SIX Name Service (SNS) ฟรีหนึ่งปี

SIX Name Service (SNS) นั้นเป็นบริการที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งชื่อกระเป๋า SIX Wallet สำหรับใช้บน SIX Protocol ได้เองโดยตั้งชื่อได้ 6–25 ตัวอักษร และลงท้ายด้วย .six วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงบริการ SIX Name Service (SNS) กัน

What_Is_SIX_Name_Service

SIX Name Service (SNS) เป็นบริการตั้งชื่อแบบ Decentralized ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยน Wallet Address ที่อ่านยาก ให้กลายเป็นชื่อที่น่าจดจำ และอ่านได้ง่าย บน SIX Protocol พูดง่ายๆ ก็คือ SIX Name Service (SNS) เชื่อมโยงชื่อผู้ใช้กับที่อยู่กระเป๋าเงิน (Wallet Address) ซึ่งทำให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมบนบล็อกเชนได้ง่ายขึ้น

 

ก่อนหน้านี้ การรับ — ส่งเหรียญคริปโตนั้นจะต้องคัดลอกและวาง Wallet Address ที่ยาวและซับซ้อน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ แต่ SIX Name Service (SNS) จะทำให้ผู้ใช้ลงทะเบียนชื่อที่คล้ายกับ Username เพียง 6–25 ตัวอักษร ทำให้แชร์และรับ — ส่งคริปโตได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ชื่อ SNS จะเป็นชื่อเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่ละชื่อจะไม่ซ้ำกัน ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้สองคนไม่สามารถมีชื่อเดียวกันได้

ประโยชน์ของ SIX Name Service (SNS)

Benefits_Of_SIX_Name_Service

การลงทะเบียนชื่อบน SIX Name Service (SNS) มีประโยชน์ดังนี้

 

1.ใช้ชื่อ Wallet Address ที่จำง่าย

Wallet Address โดยทั่วไปนั้นยาวและซับซ้อน แต่เมื่อผู้ใช้ลงทะเบียนชื่อ SNS ก็จะได้ใช้ชื่อที่สั้นต่อการจดจำ และแชร์ได้ง่าย ช่วยให้ผู้ใช้รับ — ส่งสินทรัพย์ดิจิทัลได้สะดวกขึ้น

 

2. โอกาสในการสร้างแบรนด์และทำการตลาด

การลงทะเบียนชื่อธุรกิจบน SNS ช่วยสร้างตัวตนและแบรนด์ออนไลน์บน SIX Protocol Blockchain เช่นการนำชื่อธุรกิจ หรือ ผลิตภัณฑ์มาตั้งเป็น SNS ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดลูกค้าใหม่ๆได้มากขึ้น

 

3. ป้องกันการแอบอ้างชื่อ

การลงทะเบียนชื่อบน SNS จะช่วยป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพนำชื่อ Wallet Address ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการฉ้อโกง โดยการแสดงชื่อที่ถูกต้องของผู้ใช้งาน ที่มีความกระชับ และง่ายต่อการจดจำ

 

จะเห็นได้ว่า SIX Name Service (SNS) นั้นมีประโยชน์มากมายทั้งในด้านการใช้งาน และการต่อยอดธุรกิจ

วิธีใช้บริการ SIX Name Service (SNS)

How_to_use_SIX_Name_Service

ปัจจุบัน SIX Name Service (SNS) ได้เปิดใช้บริการฟรีเป็นเวลา 1 ปี สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรม SIX Individual Node โดยผู้ที่เข้าร่วมสามารถลงทะเบียน SIX Name Service ในขั้นตอนการสมัคร SIX Individual Node ได้ทันที

วิธีซื้อ SIX Individual Node และใช้บริการ SIX Name (SNS)

SNS_How_to_1

1. ไปที่ https://sixprotocol.com/become-a-node คลิก “PURCHASE NOW” ใน Section ของ Individual Node

SNS_How_To_2

2. เลือกชื่อที่ต้องการ โดยเลือกระหว่าง 6–25 ตัวอักษร หรือจะให้ระบบสุ่มชื่อให้ก็ได้

*การตั้งชื่อ Domain มีข้อกำหนดดังนี้

  • ชื่อมีความยาว 3–25 ตัวอักษร
  • ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรเท่านั้น ลงท้ายด้วยเลข หรือตัวอักษรเท่านั้น (ตัวอักษรใช้พิมพ์เล็กได้เท่านั้น)
  • ใส่ตัวเลข[0–9] ตัวอักษร และ “-” ได้
  • ไม่อนุญาตให้ใช้คำที่ไม่สุภาพหรือมีคำที่ไม่เหมาะสม

 

3. ใส่จำนวน Node ที่ต้องการซื้อ

หลังจากใส่ข้อมูล ระบบจะสร้าง SIX Name Service (SNS) ให้โดยอัตโนมัติ และผู้ใช้จะได้รับการสมัครสมาชิกฟรีหนึ่งปี โดยบริการนี้เป็นหนึ่งในสิทธิพิเศษของผู้ที่เข้าร่วม SIX Individual Node

 

เมื่อผู้ใช้ลงทะเบียนเรียบร้อย ชื่อนั้นจะถูกจัดเก็บไว้ใน SIX Name Service (SNS) พร้อมกับ Wallet Address หรือ Public Key ที่ใช้ระบุ Smart Contract, Tokens และสินทรัพย์อื่นๆ บน SIX Protocol blockchain

 

SIX Name Service (SNS) และอนาคตของ Web 3.0

SNS_and_Web3.0

เมื่อบุคคลทั่วไปและธุรกิจนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ บริการ SIX Name Service (SNS) จะกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของโลก Web 3.0 เนื่องจากความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และโอกาสในการสร้างแบรนด์ ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างตัวตนและความน่าเชื่อถือบน Blockchain

 

หากท่านใดสนใจเข้าร่วม SIX Individual Node เพื่อใช้ SIX Name Service (SNS) ฟรี เข้าร่วมได้ที่ 👉 https://sixprotocol.com/become-a-node และหากมีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ สามารถเปิด Ticket ใน Discord เพื่อติดต่อกับทีมงานได้เลย 

Don’t miss out follow us at:

Chalermlak Woraurai
Chalermlak Woraurai

Experience the magic of Blockchain with SIX Network!

Related Posts

มัดรวมทุกเรื่องที่ควรรู้กับ NFT Gen2

มัดรวมทุกเรื่องที่ควรรู้กับ NFT Gen2

why nftgen2-02

Table of Contents

SIX Network ได้เปิดตัว NFT Gen 2 ไปแล้วในเวอร์ชัน beta และได้มีการนำเสนอ demo วิธีการใช้งานและกลไกการทำงานภายในงาน Thailand Crypto Expo 2022 เมื่อช่วงต้นเพื่อนตุลาคมที่ผ่านมา

 

และในบทความนี้เราจะนำเสนอเบื้องลึกเบื้องหลังของพื้นที่ NFT Gen 2 ว่าจะมีความแตกต่างจาก NFT ฉบับเดิมอย่างไรและอะไรบ้างที่เป็นจุดไฮไลท์สำคัญ

สาระสำคัญ:

– NFT Gen 2 ทำงานด้วยระบบ Dynamic Data Layer ที่ถูกสร้างบน SIX Protocol Chain

 

– NFT Gen 2 จะสามารถนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจอย่างเช่น การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า การใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการสะสมแต้ม และอื่น ๆ

 

– NFT Gen 2 สามารถนำไปใช้ยังบนทุก ๆ เครือข่ายบล็อกเชน

 

– “Whale Gate Collection” เป็น NFT Gen 2 ชุดแรกของโลกและจัดจำหน่ายบน marketplace ของ Xclusive

 

– ใคร ๆ ก็สามารถมีโปรเจกต์ NFT Gen 2 ได้โดยการติดต่อทีม SIX Protocol ได้เลย

อะไรคือ NFT Gen 2?

ในภาพรวม NFT Gen 2 คือการต่อยอดจาก NFT ทั่วไปโดยเพิ่มความสามารถของ Dynamic Data Layer หรือเลเยอร์ของข้อมูลที่วิ่งอยู่บนเครือข่าย SIX Protocol เพื่อการใช้งานของตัว NFT ได้จริง ๆ โดยเฉพาะสำหรับภาคธุรกิจได้อย่างอิสระ

 

มาทำความเข้าใจ NFT Gen 2 ในเชิงลึกกันก่อน อย่างแรกต้องเข้าใจว่า NFT Gen 2 มาพร้อมกับความสามารถการใช้งานบนโลกจริงได้ ยกตัวอย่าง NFT ใช้เพื่อการ check-in ในงาน event ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสร้าง NFT โดย NFT creator หรือรวมถึงธุรกิจที่ต้องการใช้ NFT ในการต่อยอดเชิงธุรกิจ อย่างการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า การใช้เพื่อการสะสมคะแนนและอีกมากมาย

ในมุมประโยชน์ใช้สอยของ NFT Gen 2 หนึ่งในกรณีตัวอย่างคือรูปแบบของการใช้งาน NFT เพื่อเป็นบัตรผ่านในการเข้าร่วมงาน เนื่องจากคุณสมบัติที่โดดเด่นของ NFT Gen 2 คือการ track & trace การใช้งาน NFT แต่ละชิ้นได้อย่างละเอียดในเลเยอร์ของ Dynamic Metadata ซึ่งจะแสดงผลประวัติของ NFT ชิ้นนั้น ๆ ซึ่งทำให้สามารถป้องกันความผิดพลาดในการใช้สิทธิที่มากับ NFT ได้  ส่งผลให้ภาพรวมของการนำ NFT มาขายต่อในตลาดมือสองเป็นไปอย่างโปร่งใส อีกทั้งสิทธิพิเศษใน NFT ที่ถูกบันทึกและยังไม่ได้มีการใช้งานก็สามารถนำมาใช้ได้จริงเพราะผ่านการตรวจสอบแล้ว

 

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ NFT Gen 2 ได้ที่: sixprotocol.com/nftgen2

ตัวอย่างประโยชน์ใช้สอยของ Metadata บน NFT Gen 2

การเพิ่มมูลค่า (Mark Usage Value) 

การเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการโดยการเพิ่มคุณประโยชน์ด้านการ track & trace จึงทำให้ตัว NFT สามารถบันทึกข้อมูลได้

 

ตัวอย่างการใช้ NFT ในการเพิ่มมูลค่า ยกตัวอย่างสามารถใช้ NFT ในการแลกรับสิทธิพิเศษในร้านอาหาร 3 ครั้ง  NFT Gen 2 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Dynamic Data Layerนั้นจึงสามารถบันทึกกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้

 

การสะสมคะแนน/ระบบบัตรสมาชิก (Point System) 

ตัวอย่างการใช้งาน NFT สำหรับระบบสมาชิกคือการได้รับสิทธิต่าง ๆ ในการเข้าร่วมกลุ่มคอมมูนิตี้ งานอีเวนท์ หรือร่วมกิจกรรมสำหรับผู้ถือ NFT และเพื่อเข้าร่วมแล้วจะได้รับคะแนนเพื่อสะสมโดยไม่มีการแทรกแซง Metadata เดิมเลย

 

กิจกรรม + การแปลงคุณสมบัติ (Mission Setting + Transformation) 

อีกหนึ่งความสามารถของ NFT Gen 2 นี้ เหมาะสำหรับห้างร้านและบริการเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมให้ตรงตามเป้าหมายและนำคะแนนไปแลกรับสิทธิประโยชน์อื่น ๆ และสามารถกำหนดให้ตัว NFT สามารถแปลงให้มีรูปแบบที่แตกต่างจากปกติเพื่อ เป็นการแสดงผลว่า NFT ชิ้นนี้ผ่านการร่วมกิจกรรมได้เพื่อเพิ่มความหลากหลายและสวยงามให้กับตัว NFT 

 

ตัวอย่างของคุณสมบัติ Transformation ของ Whale Gate Collection:

“Whale Gate” NFT Gen 2 ชุดแรกของโลก

เมื่อวันที่ 6-9 ตุลาคม 2565 SIX Network ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ Thailand Crypto Expo 2022 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และเปิดตัว NFT Gen 2 ชุดแรกของโลกภายในงาน

ผู้เข้าเยี่ยมชมบูธของเราได้รับ paper wallet เพื่อนำมาทำกิจกรรมที่ทั้งสนุกและทีมงานได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับเหล่าแฟน ๆ ของเหรียญ SIX อีกด้วย

 

สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ Whale Gate Collection ได้ที่นี่

Use Cases ของ NFT Gen 2

นอกจากการเปิดตัวคอลเล็กชั่นภายในงาน Thailand Crypto Expo 2022 แล้ว ทีมงานมีความยินดีอย่างยิ่งที่ตัว NFT Gen 2 สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริษัทและทำงานได้บนระบบบล็อกเชนที่มีความน่าเชื่อถือ เสถียร และโปร่งใสได้อีกด้วย

 

หากท่านไหนที่มีความประสงค์ที่จะร่วมทำ NFT โปรเจกต์ในรูปแบบ NFT Gen 2 สามารถติดต่อทีงานได้ที่อีเมล business@six.network หรือแจ้งความประสงค์ได้ที่ โดยการเปิด Ticket ในช่องทาง Discord ของเรา

 

ค้นหาและเรียนรู้เพิ่มเติมไปกับ Whale Gate ได้บน Marketplace ของ Xclusive และ Opensea ได้แล้ววันนี้!

Don’t miss out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Content Marketer Specialist
Prepare to fly higher with the new technology and innovation that SIX Network will provide!

Related Posts

ข้อมูลพื้นฐานทำความเข้าใจระหว่าง Validators และ Miners

ข้อมูลพื้นฐานทำความเข้าใจระหว่าง Validators และ Miners

pos-vs-pow

Table of Contents

หากพูดถึงความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน นับได้ว่าเป็นความปลอดภัยระดับสูงที่ยากต่อการแฮ็กหรือระบบล่ม แต่เหตุผลที่แท้จริงของระบบความปลอดภัยนี้อยู่ที่เบื้องหลังการทำงานเพราะมีผู้ตรวจทานข้อมูล (Verifiers) และ Verifiers สามารถแจกแจงออกได้สองรูปแบบหลัก ๆ 

ผู้ตรวจทานข้อมูลมักรู้จักกันในชื่อ Validator และ Miner ทั้งสองมีหน้าที่หลักในการตรวจความถูกต้องของข้อมูล เก็บข้อมูลภายใน และดำเนินการอนุญาตธุรกรรมให้เกิดขึ้นภายในบล็อกเชน ถึงอย่างไรก็ตามทั้งสองก็ยังมีข้อแตกต่างกันในขั้นตอนการปฏิบัติงาน

ข้อแตกต่างระหว่าง Validators และ Miners

Validators เป็นคำใช้เรียกชื่อของผู้ตรวจทานข้อมูลบล็อกที่ใช้ระบบ Proof-of-Stake (PoS) ที่จะทำหน้าที่ในการตรวจสอบธุรกรรม ลงคะแนนเสียง และรวบรวมข้อมูลไว้เพื่อการดำเนินการสร้างบล็อกต่อ ๆ ไปเป็นสายหรือที่เรียกว่าเชน

 

หากอยากเป็น Validator มีวิธีง่าย ๆ คือการ “เข้าซื้อ” ตำแหน่งนี้ภายในเชนที่สนใจ หมายความว่าผู้ถือเหรียญของเชนหนึ่ง ๆ จำเป็นต้องนำเหรียญบางส่วนมาล็อกไว้กับเชนตามแต่ข้อกำหนด ซึ่งขบวนการนี้เรียกว่าการ Stake และจะได้รับส่วนแบ่งค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในเชนตามอัตราส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นจากเหรียญที่นำมา Stake ไว้เป็นค่าตอบแทนจากเชน

 

Miners เป็นอีกกลุ่มผู้ตรวจทานที่ใช้ Proof-of-Work (PoW) ในระบบบล็อกเชนต่างเน็ตเวิร์กที่พบเห็นได้ทั่วไป การดำเนินการตรวจสอบข้อมูลภายในนี้มีหน้าที่ในการแก้ไขสมการที่มีความยากสูงจึงจะสามารถสร้าง Node ที่เชื่อมต่อไปเรื่อย ๆ ภายในเชนนั้น ๆ ต่อไป

 

กลุ่ม Miners ส่วนใหญ่ต้องลงแรงลงทุนซื้อเครื่องมืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์สเป็กต์ความเร็วสูงและใช้พลังงานไฟฟ้าที่สิ้นเปลืองเป็นอย่างมากในการปฏิบัติงาน หรืออีกชื่อที่เคยได้ยินกันว่าการขุด และจากการขุดนี้จึงจะได้รับกำไรจากการแบ่งตามบล็อกตามลำดับ

เบื้องหลังกลไกระบบการตรวจสอบข้อมูลภายในบล็อกเชน

สมการที่เหล่านักขุดจะต้องแก้ไขนี้มีชื่อเรียกว่า Proof-of-Work Problem และเมื่อแก้สมการ cryptography สำเร็จแล้วบล็อกจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่และบล็อกนั้น ๆ จะถูกกระจายอำนาจไปทั่วทั้งเชน จึงเป็นที่มาของคำว่าบล็อกเชน (Blockchain)

 

ซึ่งขบวนการแก้สมการของ miners มีชื่อเรียกทางเทคนิค inverse hashing ซึ่งก็คือการที่ธุรกรรมต่าง ๆ ถูกเรียบเรียงมาอยู่ในบล็อกเดียวกัน จากนั้นนักขุดหรือ miners จะปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจทานข้อมูลและรับส่วนแบ่งไปตามที่กำหนดหากแก้สมการสำเร็จเป็นคนแรก

 

กลไกอีกรูปในชื่อ Proof-of-Stake ที่เหล่า Validators เป็นผู้รับผิดชอบนั้นมีต้นแบบมาจาก Peercoin เป็นเจ้าแรกของตลาดแต่ได้รับความสนใจจริง ๆ เมื่อตอนที่เน็ตเวิร์กอย่าง Ethereum หยิบยกขึ้นมาเพื่อใช้ในการตรวจทานข้อมูลของบล็อก และหากเทียบกับ Proof-of-work แล้วมีกลไกที่ง่ายและเป็นมิตรต่อพลังงานมากกว่าโดยการ Stake เหรียญของเชนนั้น ๆ

 

หน้าที่ปฏิบัติการของ Validator และ Miners มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลและอนุญาตการดำเนินการธุรกรรมที่เหมือนกันแต่ส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมที่จะได้รับขึ้นอยู่กับจำนวนเหรียญที่ Stake ตอนต้น และไม่มีการแข่งขันแบบ Proof-of-Work

บทสรุป

สรุปแล้วไม่ว่ารูปแบบการตรวจธุรกรรมของบล็อกจะเป็น PoW หรือ PoS นั้นมีความสำคัญในระบบนิเวศน์บล็อกเชนในการรักษาความปลอดภัยในเน็ตเวิร์กไม่ว่าการตรวจทานจะมาจาก Validators หรือ Miners ก็ตาม

 

ในปัจจุบันหลาย ๆ บล็อกเชนเน็ตเวิร์กมองเห็นความสำคัญและความคล่องตัวของการใช้ทรัพยากรที่น้อยลงอย่างระบบ Proof-of-Stake

และในโอกาสนี้ทางทีม SIX อยากจะขอเชิญชวนและประชาสัมพันธ์เรื่อง Individual Node Validator ของ SIX Protocol ว่าเราจะเปิดบริการเร็ว ๆ นี้ และระบบ Validators ของเราเป็นระบบ Proof-of-Stake Authority (PoSA) ทางเราจะอัปเดตและให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง Node และผลิตภัณฑ์ของ SIX Protocol ต่อไป

 

Individual Node Validator สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโอกาสในการเป็นหนึ่งในผู้ร่วมการตรวจทานบล็อกและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบล็อกเชนของเรา หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถเข้าไปศึกษาได้ตามลิ้งก์นี้

>> https://sixprotocol.com/six-validator-nodes

Related Posts

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Prepare to fly higher with new technology and innovation that SIX Network will provide!

Don’t miss out follow us at:

SIX Protocol Individual Node Validator: โอกาสใหญ่ของคนตัวเล็ก

SIX Protocol Individual Node Validator: โอกาสใหญ่ของคนตัวเล็ก

individual-node-validator

Table of Contents

หากคุณคือกลุ่มคนที่มีความสนใจและมองหาโอกาสการเป็นเจ้าของ Node (โหนด) บนเครือข่ายบล็อกเชนสักเชนแต่ไม่มีกำลังหรือเงินทุนมากพอเพื่อเปิด Node หรือคุณอาจจะเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีความจำเป็นในการสร้าง Solution เพื่อดำเนินธุรกิจหรือเซอร์วิสต่าง ๆ แต่สนใจที่จะเป็น Node Validator โอกาสนั้นมาถึงคุณแล้ว

 

อีกไม่นานทาง SIX Network กำลังจะเปิดโครงการ Partnership Program ของ SIX Protocol เพิ่มเติมในรูปแบบ Individual Node ซึ่งเป็น Node สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการเข้ามาร่วมสร้างระบบนิเวศน์ของ SIX Protocol ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางบริษัทมีการเปิดตัวพันธมิตรในรูปแบบ Business Node โดยมีกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่จากหลากหลายอุตสาหกรรมเข้าร่วมจัดตั้ง Node ประเภทนี้เพื่อวางรากฐานของ SIX Protocol ให้แข็งแกร่งและเพียบพร้อมสำหรับการนำไปใช้ต่อยอดทางธุรกิจในอนาคต

 

การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในรูปแบบ Business Node ของ SIX Protocol ทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ที่มี Node ของตัวเองได้รับสิทธิประโยชน์ในการใช้บริการเครื่องมือในการพัฒนาระบบและนำบล็อกเชนเข้ามาต่อยอดธุรกิจโดยมีที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างทีมงาน SIX Network คอยให้คำแนะนำ ด้วยลักษณะของสิทธิประโยชน์ การเปิด Node ในรูปแบบนี้จึงเหมาะสำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ เป็นหลัก

 

อีกทั้งการเปิด Node ในรูปแบบนี้จะเป็นส่วนเสริมช่วยนำพาธุรกิจมายังพื้นที่ของบล็อกเชนและยังเพิ่มโอกาสในการยกระดับรูปแบบธุรกิจให้ปรับตัวทันกับยุคสมัยของอินเทอร์เน็ตยุคใหม่บน Web 3.0 นอกจากนี้แล้วกลุ่มธุรกิจที่ลงนามเปิด Business Node บน SIX Protocol จะได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นคำนวนจาก 1 ล้านเหรียญ SIX ที่นำมา stake ไว้ในระบบจากค่าธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในเชน

ก้าวใหญ่ของคนตัวเล็กเพื่อเป็น SIX Node Validator

 

Node Validator ในแต่ละเชนจะมีหน้าที่และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับแตกต่างกันออกไป SIX Protocol เองเล็งเห็นถึงความสำคัญของ Node Validator ของแต่ละ Node ต่อระบบนิเวศน์ภายในเชน เราจึงอยากมอบโอกาสให้กับบุคคลที่มีความสนใจหรือกำลังมองหาโอกาสในการเข้ามาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบบล็อกเชน

ดังนั้นการเข้ามาเปิด Node Validator ในรูปแบบ Individual Node จึงเรียกได้ว่าเป็นโอกาสใหญ่ของคนตัวเล็ก ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายงานไหนทำอาชีพอะไรคุณก็สามารถร่วมเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นเสียงสำคัญในการลงฉันทามติเพื่อความปลอดภัยของธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในเชนของ SIX Protocol

สิทธิประโยชน์ของการเป็น Individual Node Validator จะได้รับส่วนแบ่งค่าธุรกรรมคิดจากเปอร์เซ็นในการ stake 20,000 เหรียญ SIX สำหรับหนึ่ง Node

เมื่อฝากเหรียญเพื่อเปิด Node เรียบร้อยแล้วส่วนแบ่งตามข้อกำหนดจาด gas fee ที่เกิดขึ้นภายใต้โปรโตคอลจะถูกแบ่งจ่ายให้กับทุกคนตามเปอร์เซ็น

บทบาทและประโยชน์จากการเป็น Individual Node Validator

☑️ บทบาทของ Node validator ที่มีให้กับระบบบล็อกเชน

– การลงฉันทามติสำหรับโปรโตคอล

– ดำเนินการธุรกรรม

– รักษาความปลอดภัยและคงประสิทธิภาพของระบบบล็อกเชน

☑️ ประโยชน์ที่ได้รับ

– ได้บทบาทสำคัญและเพิ่มความน่าเชื่อถือภายในเชน

– ได้รับส่วนแบ่งจาก gas fee

– ได้รับโอกาสอีกมากมายในอนาคตจากเชน เช่น สิทธิในการโหวต

 

ทุกคนไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็สามารถเข้าถึงโอกาสของการเป็น Node Validator ได้ไม่ว่าเหตุผลในการเข้าร่วมของแต่ละคนจะมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันอย่างไร Business Node อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับคนตัวเล็ก Partnership Program ของ SIX Protocol จึงเป็นส่วนช่วยให้ทุกคนได้รับโอกาสเข้าถึงระบบบล็อกเชนได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

หากคุณกำลังสนใจโอกาสนี้สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ 👉https://forms.gle/wAQzLcXijneVuC3i6

 

✅ Individual Node Validator กำลังจะเปิดให้สาธารณะในไม่ช้าและเรามีความยินดีอย่างยิ่งให้ทุกท่านที่สนใจสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ sixprotocol.com

Don’t miss out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Passionate about financial world and is an inverstor too! Giving out news update and blog post every month.
Visit us at SIX Network for more.

Related Posts

Community ในโลกบล็อกเชนคืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการทำธุรกิจบล็อกเชนในปี 2022?

Community ในโลกบล็อกเชนคืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการทำธุรกิจบล็อกเชนในปี 2022?

community-is-essential

Table of Contents

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีบล็อกเชนได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลกอย่างกว้างขวาง เราได้เห็นธุรกิจบล็อกเชนและโปรเจกต์ NFT ต่างๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนคงเห็นเช่นเดียวกันว่าหัวใจสำคัญของโปรเจกต์บล็อกเชนนั้นคือเครือข่าย Community!

 

วันนี้พวกเราเลยอยากจะมาชวนทุกคนมาอ่านถึงเหตุผลที่ว่าทำไมความสำคัญของการมี Community ถึงเป็นเรื่องที่ธุรกิจบล็อกเชนควรสนใจในปีนี้ 

#1 Community เป็นพื้นที่ศูนย์กลางสำหรับการเรียนรู้ การทำงานร่วมกัน การเชื่อมต่อ และไอเดียใหม่ๆ

 

Community ในโลกบล็อกเชนนั้นมีความพิเศษตรงที่ตัวเครือข่ายของผู้คนจะไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ใดสถานที่หนึ่งถึงแม้สมาชิกของ Community จะมีมาจากทั่วมุมโลกก็ตาม พวกเขาพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ กันบนรากฐานของการมีความเคารพซึ่งกันและความ Decentralized นั่นเอง

 

ในอีกมุมหนึ่ง Communtiy บล็อกเชน หรือ โปรเจกต์ NFT ก็มีความคล้ายกับการทำงานที่ co-working space ในโลกจริงๆ ประมาณนึงเลย เพราะใน Community หนึ่งก็สามารถมีสมาชิกที่หลากหลายมากๆ อยู่ได้ ไม่ว่าสมาชิกจะอายุน้อยหรือมาก หรือเรียนจบระดับไหน ทำให้ชุมชนมีตั้งแต่คนที่อยู่ในระดับเพิ่งเริ่มต้น (newbie) ไปจนถึงมืออาชีพได้เลย สิ่งที่สำคัญจริงๆ คงเป็นตัวดึงดูดพวกเขาให้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ Communtiy ซึ่งก็คือตัวโปรเจกต์หรือธุรกิจนั่นเอง

 

อย่าง Community ของ SIX Network เอง ทีมเราได้เลือกใช้ Discord ในการมาเป็นพื้นที่สำหรับ Community ของเราที่มาพร้อมกับ ห้องแชทต่างๆ รวมถึงกิจกรรม และฟีเจอร์คูลๆ ที่สร้างมาเพื่อให้สมาชิกทุกคนสามารถเข้าร่วมและ Engage กับหลายๆ กิจกรรมที่เกิดขึ้นได้

 

อยากมาลองดู Community Space ของ SIX Network บน Discord ก็ได้นะ คลิกที่นี่เลย: https://discord.gg/kypKmUJv9J

#2 Community ที่เติบโตขึ้น = การขยายฐาน User



มีหลายสาเหตุที่ทำให้ธุรกิจบล็อกเชนในปัจจุบันลงทุนเพื่อสร้าง Community อย่างจริงจัง ซึ่งดูเหมือนว่า Community ที่สามารถเติบโตได้และมีการ Engage กันนั้น จะสามารถตอบโจทย์การพัฒนาธุรกิจได้ดีที่สุดในด้านของการสร้างการเป็นที่รู้จักบนโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้น 

 

ในขณะเดียวกัน Community ที่ช่วยให้สมาชิกมีประสบการณ์และความรู้สึกที่ดีก็จะสามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมจากสมาชิกใหม่ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ก็แล้วแต่ Community ว่าจะสร้างคุณค่าเหล่านั้นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นการจากการอธิบาย Product และเล่าเรื่องราวของโปรเจกต์/ธุรกิจ ให้กับสมากชิกใหม่ได้เห็นภาพมากขึ้นจุดนี้เอง สมาชิกที่มีความรู้ดีในพื้นที่ Community ก็สามารถมาช่วยเสริมความเข้าใจและ Support ทุกคนในด้านต่างๆ ได้

#3 ขับเคลื่อนกิจกรรมโดยตรงกับ Community

 

เมื่อมีพื้นที่สำหรับ Community แล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญอีกอย่างที่ธุรกิจควรพิจารณาคือการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับ Community ซึ่งจะเป็นเรื่องที่สะดวกมากสำหรับโปรเจกต์และสมาชิกที่จะสามารถเรียนรู้และเข้าร่วมแต่ละกิจกรรมเนื่องจากโปรเจกต์หรือธุรกิจสามารถแนะนำ Product หรือ แคมเปญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ Community ได้โดยตรงซึ่งทางสมาชิกเองก็สามารถรับรู้และสื่อสารข้อมูลกับทางทีมโดยตรงได้

Crypto Campfire by SIX ep 1

สำหรับกิจกรรมที่ทาง SIX Network ทำบนพื้นที่ Community ของเราก็มีตั้งแต่รายการ Live sessions ชื่อว่า “Crypto Campfire by SIX” เป็นรายการที่ทางทีมเราเชิญแขกรับเชิญในวงการคริปโตมาร่วมพูดคุยในหัวข้อต่างๆ อย่าง Metaverse, การจัดการการเงิน, NFTs, การจัดการ Community ในยุค Web 3.0 และอื่นๆ อีกมากมาย

 

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือการเลือกใช้ Community แพลตฟอร์ม ยกตัวอย่างเช่น Telegram หรือ Discord ที่มาพร้อมกับทางเลือกในการติดตั้งเครื่องมือเสริม เช่น บอท หรือ Growth tool ต่างๆ

 

ที่ SIX Network เองก็ได้มีการใช้ “SIX Zone” ที่ถูกพัฒนาโดยทีม SIX Protocol มาใช้บน Discord Server สำหรับการจัดการกิจกรรมของ Community ต่างๆ เช่น การจัดการ Whitelist หรือ Airdrop Activity 

 

ทุกคนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SIX Zone ได้ที่นี่ 

#4 เทรนด์ในเรื่อง Web 3.0 และการใช้ NFTs ที่มากขึ้น

 

ด้วยยุคใหม่ของ Web 3.0 ที่กำลังเข้ามา การศึกษาและการทำความคุ้นเคยเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ  เช่น การจัดการ Private Key หรือการ Sign Message ต่างๆ ยังเป็นเรื่องที่ยังจำเป็นสำหรับผู้ใช้ใหม่ๆ ดังนั้น ความสำคัญของการสร้าง Community ที่เต็มไปด้วยผู้คนมาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในระดับต่างๆ จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ความเข้าใจโดยรวมเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการในยุคใหม่นี้

SIX Network Discord Information Section

มาดูอีกตัวอย่างจาก Discord Server ของพวกเรากัน บน Server ของ SIX Network จะมีส่วนที่เรียกว่า “user-guide” และ “official-links” ซึ่งสมาชิกสามารถเข้าไปอ่านวิธีการต่างๆ และเข้าถึงเว็บไซต์ Product หลักของ SIX Network เช่น SIX Protocol และ Definix

สรุป

 

มีหลายสาเหตุที่ความสำคัญของ Communtiy กลายเป็นจุดสนใจสำหรับการพัฒนาธุรกิจบล็อกเชน และโปรเจกต์ NFT ไม่ว่าจะเป็นการที่ธุรกิจจะสามารถสื่อสาร รักษา หรือขยายฐานลูกค้าให้สนับสนุนการดำเนินงานได้ แต่อีกหนึ่งเรื่องสำคัญเลยสำหรับโปรเจกต์ และธุรกิจต่างๆ คือการเลือกแพลตฟอร์มชุมชนที่เหมาะสมต่อกลุ่ม Audience ของแต่ละที่ ยกตัวอย่างเช่นการสร้าง Community บน Discord และ Telegram ที่จะมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันออกไป

 

มาถึงตอนนี้พวกเราเลยอยากที่จะ Mention ว่าที่ SIX Protocol เองก็มีทีมที่เต็มไปด้วยความรู้และประสบการณ์ในการสร้าง discord server อยู่พอสมควรเลย เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณสนใจที่จะมี AI วาดภาพอยู่ใน server หรือมี บอท ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ทีมเราพร้อมที่จะ Support คุณเสมอ!

 

ณ ตอนนี้ ทุกคนสามารถเข้าถึง Service เต็มรูปแบบของ SIX Protocol ได้ผ่านการมาร่วมเป็นหนึ่งใน Ecosystem ในฐานะ Business Nodes เพราะฉะนั้นถ้าหากธุรกิจของคุณมีแผนที่จะเข้ามาในโลกบล็อกเชน นี่อาจจะเป็นโอกาสสำคัญสำหรับคุณ!

 

สามารถกรอก Interest ฟอร์ม ได้เลยที่นี่: https://forms.gle/wAQzLcXijneVuC3i6

 

อยากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Benefits ของการมาเป็น Node อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!

Don’t miss out follow us at:

Khanathat Chowpradith
Khanathat Chowpradith

Web3 Marketer | Passionate Writer | NFTs enthusiast

Related Posts

คู่มือฉบับย่อในการทำ Crypto Airdrop สำหรับธุรกิจ

คู่มือฉบับย่อในการทำ Crypto Airdrop สำหรับธุรกิจ

cryoto-airdrop

Table of Contents

 

Crypto Airdrop คืออะไร?

ทำไมคุณต้องสนใจการทำ airdrop?

 

ต้องทำอย่างไร ถึงจะสามารถทำ Crypto Airdrop ที่มีผลลัพธ์ที่ดี ?

 

 ✓ สร้างสรรค์กิจกรรมให้กับผู้ใช้ (Create an activity for your audience)

 

 

 ✓ เข้าถึงหลายๆ กลุ่มคนจากทั่วโลกด้วย Hashtag “#”

 

 

 

 

 

Don’t miss out follow us at:

Khanathat Chowpradith
Khanathat Chowpradith

Web3 Marketer | Passionate Writer | NFTs enthusiast

Related Posts

คู่มือทำความเข้าใจ Web3, Blockchain, DApps สำหรับธุรกิจ และประโยชน์ที่ได้รับ

คู่มือทำความเข้าใจ Web3, Blockchain, DApps สำหรับธุรกิจ และประโยชน์ที่ได้รับ

six-protocol-web3

Table of Contents

 

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล

 

การทำธุรกรรมแบบไร้ขอบเขตบน Web3

 

 

Chainlink เป็นหนึ่งในตัวอย่างโปรเจกต์บล็อกเชนสำหรับ Web3 ในการพัฒนาระบบและการบริการสำหรับการทำธุรกรรมสำหรับธุรกิจ. Chainlink เป็นมิดเดิลแวร์บล็อกเชนที่ช่วยให้ smart contract เข้าถึงทรัพยากรนอกเครือข่ายที่สำคัญ เช่น ฟีดข้อมูล, API ของเว็บ (application programming interfaces) และบริษัทชำระเงินผ่านธนาคารแบบดั้งเดิม

SIX Protocol Chain สามารถสนับสนุนอะไรได้บ้าง?

 

 

 

➤ มอบสภาพแวดล้อมที่น่าปลอดภัยและเชื่อถือให้กับคอมมูนิตี้

 

➤ ลดปัญหาในการเข้าถึงบริการ

 

➤ เข้ารหัสข้อมูลประจำตัวแบบไร้ตัวกลาง

Don’t miss out follow us at:

Napathsorn Unchit
Napathsorn Unchit

Passionate about financial world and is an inverstor too! Giving out news update and blog post every month.
Visit us at SIX Network for more.

Related Posts

Token Autonomy Management System คืออะไร? ทำไมธุรกิจถึงต้องรู้?

Token Autonomy Management System คืออะไร? ทำไมธุรกิจถึงต้องรู้?

tokenomy-management

Table of Contents

Token Autonomy Management System คืออะไรกันแน่ ?

 

 

ความปลอดภัยของทุกคนในโลกบล็อกเชนคือเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา

 

Multi-signature technology คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญ?

 

Token Autonomy Management System เหมาะกับใคร ?

 

 

 

อีกหนึ่งตัวอย่างของ Multi-sig

Don’t miss out follow us at:

Khanathat Chowpradith
Khanathat Chowpradith

Web3 Marketer | Passionate Writer | NFTs enthusiast

Related Posts

SIX Protocol สามารถช่วยให้คุณใช้ NFTs ในการพัฒนาธุรกิจของคุณได้อย่างไร

SIX Protocol สามารถช่วยให้คุณใช้ NFTs ในการพัฒนาธุรกิจของคุณได้อย่างไร

utilize NFTs

Table of Contents

NFTs ในหลายๆ อุตสาหกรรม

อย่างที่รู้กันว่า NFTs สามารถนำมาใช้โดยธุรกิจจากหลากหลายอุตสาหกรรมได้ เพราะ NFT เองสามารถเป็นตัวแทนของหลายสิ่งหลายอย่างในโลก off-chain ไม่ว่าจะออนไลน์ หรือออฟไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นตั๋วงานอีเวนท์ เอกสารต่างๆ หรือ แม้แต่ประกาศนียบัตรของมหาวิทยาลัย ด้วยการที่ Validator Node Partners ของ
SIX Protocol เป็นกลุ่มธุรกิจ และองค์กรที่มีโดดเด่นในอุตสาหกรรมต่างๆ เราเลยอยากชวนทุกคนมาสำรวจความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดของ NFT สำหรับแต่ละอุตสาหกรรมกัน!

NFTs และ Utility

อุสาหกรรมดนตรีและสื่อบรรเทิง Entertainment: NFTs = บัตรเข้างาน

อุสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์: NFTs vs. Documents

ธุรกิจของคุณควรลองใช้ NFT หรือไม่?, การทำงานกับ SIX Protocol, และอื่นๆ

 

Don’t miss out follow us at:

Khanathat Chowpradith
Khanathat Chowpradith

Web3 Marketer | Passionate Writer | NFTs enthusiast

Related Posts